ตั้งแต่ครั้งโบราณกาล ดอกไม้เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจสำคัญของมนุษย์สำหรับการสร้างสรรค์งานศิลปะมาโดยตลอด ทั้งบทกวี นิทาน เรื่องสั้น ไปจนถึงภาพวาดหรือดนตรี ดอกไม้แต่ละชนิดล้วนประกอบด้วยความงดงาม ละเมียดละไม น่าทะนุถนอม บางคนเปรียบดอกไม้กับความรัก บางคนเปรียบดอกไม้กับผู้หญิง ส่วนอีกหลายคนเปรียบดอกไม้กับความหวัง กำลังใจ ความทรงจำ ยามเช้า พระอาทิตย์ตกดินและอื่นๆ อีกมากมาย
ในโลกนี้คงไม่มีใครไม่ชอบดอกไม้ หากแต่ในความชอบ ความรัก ความผูกพันที่มีนั้น จะสามารถถ่ายทอดออกมาได้ละเอียดอ่อนลึกซึ้งได้เพียงใดเท่านั้น “รักษิตา” เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีความสามารถพิเศษในการแยกแยะบุคลิกลักษณะเฉพาะตัวของดอกไม้แล้วนำมาถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือที่เต็มเปี่ยมด้วยจินตนาการ ถ้อยคำของเธองดงามหอมหวาน ประสานกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับภาพวาดมีชีวิตชีวาของบุษกร พิชยาทิตย์ ผู้หญิงอีกคนที่มีดอกไม้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เช่นเดียวกับเส้นสายลายดอกไม้สีน้ำ ผลงานศิลปะชิ้นเล็กๆ ของเธอ ที่ทำให้หนังสือเล่มนี้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
“หากแต่ในนามของดอกไม้แห่งความรัก ดอกกุหลาบใช่มีเพียงความหอมหวาน นุ่มนวลละมุนละไม สิ่งที่อยู่คู่กุหลาบงาม คือเรียวหนาม สิ่งที่อยู่คู่ความรักอันงดงามคือความทุกข์”
ดอกไม้งาม... และความรัก
“จวบจนดวงดาวลาท้องฟ้า วันเวลาของจำปาก็มาถึง แม้จะหอมได้ไม่เทียมเท่าดอกจำปี แต่จำปาก็มีดอกใหญ่สีเหลืองส้มสดใส สมกับเป็นดอกไม้ที่แย้มบานพร้อมๆ กับการมาเยือนของดวงตะวัน”
จำปี จำปา เวลาหอม
“เออหนอ... เจ้าผักบุ้ง แม้เป็นเพียงพันธุ์ไม้เลื้อยไล้ไปตามดิน ยังยินดีช่วยส่งความฝันสวยงามของเด็กๆ ให้ล่องลอยไปไกลถึงปลายฟ้า”
ดวงดาวดอกผักบุ้ง